ชิปปิ้งจีน 10 ช่องทางในการชำระเงินออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด!

ชิปปิ้งจีน 10 ช่องทางในการชำระเงินp ชิปปิ้งจีน ชิปปิ้งจีน 10 ช่องทางในการชำระเงินออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด! 10                                                              protaobaoWEB 768x402

ชิปปิ้งจีน จากการวิจัยของ Get Elastic บล็อก E-Commerce ชื่อดัง พบว่าเหตุผลหลักๆ ราว 41% ของผู้ซื้อออนไลน์ละทิ้งตะกร้าสินค้า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอยู่ และไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในขั้นตอนแรกๆ ของการช็อปปิ้งสินค้า

ดังนั้นความชัดเจนและความซื่อสัตย์ของร้านค้า จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังจากร้านค้า

นอกจากนี้ การเสนอราคาขั้นต่ำสุดนั้น ไม่ได้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จเสมอไป เพราะคุณภาพอาจมีความสำคัญมากกว่า และบางครั้งผลิตภัณฑ์ที่ถูกที่สุดก็ขายไม่ออก เนื่องจากผู้บริโภคอาจเกิดความรู้สึกว่า ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ เมื่อราคาดูเหมือนจะถูกเกินไปในความเป็นจริง

ในขณะที่การมอบคูปองส่วนลด เมื่อคุณซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของร้าน ก็มีอัตราเฉลี่ยของการละทิ้งรถเข็น (ระหว่างการสั่งซื้อสินค้า) เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่า หากมีขั้นตอนของการใส่โค้ดคูปองที่ซับซ้อนหรือต้องใส่ซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง ก็มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะทำการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้านั้นสูงถึง 70%  

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับสองปัจจัยข้างต้นแล้ว เรื่องของการชำระเงินในธุรกิจ E-Commerce นั้น ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน หากร้านค้ามอบประสบการณ์การชำระเงินที่น่าประทับใจและใช้งานง่าย มีความสะดวกและปลอดภัยให้กับลูกค้า ก็สบายใจได้เลยว่า ลูกค้าจะกลับมาซื้อสินค้าซ้ำหรือบริการชิปปิ้งจีนจากร้านค้าของคุณอย่างแน่นอน และต่อไปนี้คือช่องทางการชำระเงินที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก Protaobao รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว

  1. PayPal – หนึ่งในเกตเวย์ของการชำระเงิน ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย รองรับทั้งการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตและฟรีสำหรับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมง่ายๆ เมื่อใช้ PayPal สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ปัจจุบันมีการใช้งาน Paypal กับธุรกิจ E-Commerce มากกว่า 17 ล้านราย และถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดาช่องทางอื่นๆ
  2. Amazon Pay – Amazon เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์และลูกค้าเกือบทั้งหมดของร้านค้ามีบัญชี Amazon Pay โดยวิธีการชำระเงินของ Amazon ทำงานได้ดีบนอุปกรณ์มือถือ จึงใช้งานง่าย ทำให้ได้รับความนิยม
  3. Google Pay – Google นำเสนอวิธีการชำระเงินออนไลน์ของตัวเอง นั่นคือ Google Pay ทาง Google ได้กล่าวกับผู้ใช้หลายร้อยล้านคน ซึ่งมีข้อมูลบัตรที่บันทึกไว้ในบัญชี Google ของพวกเขา ซึ่งหมายถึงการให้ตัวเลือก Google Pay ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้คนจำนวนมาก
  4. American Express – เป็นหนึ่งในบริษัทชำระเงินที่ได้รับความพึงพอใจมากที่สุดสำหรับลูกค้าทั่วโลก เนื่องจากให้บริการดีเลิศ เป็นสากลใช้ชำระเงินได้ทั่วโลก และมีเป้าหมายคือผู้บริโภคที่มีรายได้สูง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จ่ายผ่านบัตร Amex มักจะเสียค่าธรรมเนียมที่มากกว่าบัตรประเภทอื่นๆ ปัจจุบัน บัตร Platinum Card ของ Amex เสียค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
  5. Apple Pay – เป็นแอปพลิเคชั่นที่รองรับการชำระเงินสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ Apple และอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น IPhone IPad Apple Watch Mac ข้อดีคือช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็วและไม่ต้องพาบัตรหลายใบ เพราะ Apple Pay ได้ทำหน้าที่รวมบัตรทุกใบของคุณไว้ในที่เดียว สามารถใช้แอปฯ ชำระเงินออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย
  6. Stripe – แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เช่นเดียวกับ Paypal เพียงแต่ทำได้ง่ายกว่า โดยการคัดลอกโค้ด ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบของ Stripe ผ่าน API ไปแปะตามตำแหน่งต่างๆ ของหน้าเว็บไซต์หรือหน้าแอปฯ ที่ต้องการเก็บเงินก่อนเข้ารับบริการหรือเพื่อซื้อสินค้า
  7. Visa Checkout – เช่นเดียวกับเกตเวย์การชำระเงินจาก American Express ถือว่า Visa Checkout ช่วยให้ผู้ถือบัตรวีซ่าทุกคนสามารถเช็คเอาท์บนเว็บไซต์ของร้านค้าได้ โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินทั้งหมด มีผู้ลงทะเบียน Visa Checkout มากกว่า 2 ล้านคน ดังนั้น ร้านค้าจะต้องทำให้ขั้นตอนการเช็คเอาท์ง่ายขึ้น อีกทั้งจัดได้ว่าเป็นตัวเลือกของการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงและตั้งค่าง่าย
  8. Masterpass by Mastercard – Masterpass เป็นการรีแบรนด์ของ Mastercard เพื่อปรับลุคและกลยุทธ์ของบริษัทฯ ให้ดูทันสมัยและเข้ากับยุคดิจิตอล ซึ่งปัจจุบัน Masterpass เป็นวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัยและทันสมัยไม่น้อยหน้า Amex เลยทีเดียว มีผู้ค้าออนไลน์รวมถึงแอพพลิเคชั่นหลายแสนรายการที่รองรับระบบมาสเตอร์พาสแล้ว อาทิ Firehouse Subs,Masabi, MLB.com และ MLBShop.com, Office Depot เป็นต้น
  9. Alipay – แพลตฟอร์มชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดของจีน ต้องยกให้กับ Alipay ก่อตั้งโดยแจ๊คหม่า เจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba จุดประสงค์ของการก่อตั้ง Alipay นั้น ก็เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ Taobao.com ธุรกิจในเครือของ Alibaba หรือแม้แต่บริการชิปปิ้งจีน ต่อมามีการขยายบริการช็อปปิ้งและชิปปิ้งจีนมากขึ้น คนหันมาซื้อขายแพลตฟอร์มออนไลน์กว้างขวางขึ้น Alibaba จึงโยก Alipay ไปอยู่ภายใต้อีกบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่า Ant Financial ปัจจุบัน Alipay สามารถชำระเงินผ่านใบหน้าได้มากกว่า 300 เมืองในจีน โดยระบบของ Alipay นั้น เรียกว่า Smile to Pay หรือยิ้มก่อนจ่ายเงิน
  10. 99Bill แพลตฟอร์มชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศจีน ขึ้นชื่อว่าเป็นระบบการชำระเงินที่ทันสมัยที่สุดในโลกและได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในอุตสาหกรรมธุรกิจหรือธุรกิจชิปปิ้งจีน 99Bill ได้รับรางวัลใบอนุญาตการชำระเงินออนไลน์ชุดแรกของธนาคารกลาง นอกจากนี้ ระบบของ 99Bill ยังได้รับรางวัลว่าเป็นระบบบริการชำระเงินที่มีความปลอดภัยอันดับ 1 จากศูนย์ทดสอบประเมินความปลอดภัยด้านข้อมูลของจีน (China Information Security Testing Evaluation and Certification Center) อีกด้วย ปัจจุบัน 99Bill รับชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรธนาคารต่างๆ สมาร์ทโฟนและระบบ POS (ระบบขายของหน้าร้าน)

จะว่าไปแล้ว บัตรเครดิตยังคงเป็นวิธีการชำระเงินหลัก สำหรับการสั่งซื้อออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือบริการชิปปิ้งจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาตัวเลือกของการชำระเงินแบบแยกย่อยตาม Gen แล้ว จะเห็นได้ว่ากระเป๋าเงินมือถือสำหรับคนรุ่นใหม่ ถูกใช้อยู่บ่อยครั้ง โดยกลุ่ม Millennials (อายุ 22-37 ปี) และ Gen Z (อายุ 38-53 ปี) มีอัตราการใช้จ่ายมากกว่า Gen X หรือ Baby Boomers ส่วน Gen Z มีความพร้อมในการใช้ตัวเลือกทางการเงินมากขึ้น (ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง) ในขณะที่รุ่น Baby Boomers เป็นรุ่นเดียวที่มีรายงานมากกว่า 50% ถึงการไม่ต้องการสินเชื่อออนไลน์ (70.6%)

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่จะชำระเงินด้วย Cryptocurrency (เป็นรูปแบบหนึ่งของเงินดิจิทัล) โดยธุรกิจ E-Commerce ทุกวันนี้ เลือกที่จะให้โอกาสในการชำระค่าสินค้า บริการ หรือตั๋วด้วย Cryptocurrencies แต่การยอมรับวิธีการชำระเงินนี้ ยังเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคนส่วนใหญ่ !