Local Economy เป็นสิ่งที่มีมายาวนานหลายทศวรรษและเรียกได้ว่าคลาสสิกทุกยุคสมัยเลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะมีกระแสสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมสูงกว่าก็ตาม แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ Local Economy ได้กลับมาแรงอีกระลอก ทั้งมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างงดงาม ตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มและลูกค้าต่างชาติ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับกระแสรักษ์โลก ที่มีการใช้สินค้า Eco-Product ทำให้ยิ่งตอกย้ำความแรงของเทรนด์นี้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเข้าถึงเทคโนโลยีของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ E-Commerce หรือ Social Media ต่างก็เป็นช่องทางขายสินค้าของคนยุคนี้ และทำให้ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงสินค้าในชุมชนได้ง่ายกว่าสมัยอดีตเป็นอย่างมาก 

        ในสหรัฐอเมริกาได้มีการใช้สกุลเงินดิจิทัล คริปโคเคอเรนซี (Cryptocurrency) และบิทคอยน์ (Bitcoin) ที่เป็นเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ในชุมชนก็สามารถใช้เงินสกุลนี้ได้โดยปราศจากความควบคุมของรัฐ ทำให้คนในท้องถิ่นสามารถแลกเปลี่ยนเงินกันได้ในพื้นที่และสร้างความมั่นคงให้กับสินค้าและบริการได้ ส่วนในประเทศอังกฤษก็ได้จัดแคมเปญ ‘Buying British’ ที่ทำให้ธุรกิจท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและผู้บริโภคได้หันมาสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้นด้วย ส่วนในประเทศจีนก็มีโครงการคล้ายกัน ที่ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีการเติบโตอย่างยั่งยืน

        สำหรับบ้านเรา รัฐบาลก็ได้ผลักดันและส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เชื่อมโยงเข้าสู่เศรษฐกิจโลก เพื่อยกระดับเกษตรกรให้มีความรู้ ความสามารถและศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม ให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องวางแผนการผลิตและการตลาดโดยมีระบบซื้อขายแบบ E-Commerce รวมทั้งกระจายสินค้าจากตลาดชุมชนสู่ตลาดเพื่อนบ้านและตลาดโลก (ศึกษาแนวโน้มธุรกิจเพิ่มเติมที่ 5 เทรนด์มาแรงปี2020 ที่ผู้ประกอบการ E-Commerce ต้องรับมือ) พร้อมทั้งจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด Local Economyโดยการจัด ‘Business Matching’ หนุนผู้ประกอบการที่ขายผลผลิตทางการเกษตรสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์อีกด้วย

         Local Economy หรือเศรษฐกิจชุมชน จึงเปรียบเสมือนรากแก้วของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของทั่วโลก ซึ่งความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในระยะยาวและไม่มีการผูกขาด โดยอาศัยการร่วมมือกันของคนในชุมชน ส่งผลให้คนในชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำให้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืนได้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

         อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์ม E-Commerce เช่น Amazon Taobao Tmall หรือ 1688 ยังถือว่าเป็นช่องทางหลักที่ง่ายต่อการเข้าถึงการบริโภคสินค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นสินค้าชุมชน สินค้า OTOP สินค้าแฮนด์เมด Eco Product และสินค้าจากจีน ซึ่งเป็นที่นิยมชิปปิ้งเข้ามาขายมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากต้นทุนต่ำ สินค้ามีความหลากหลาย และคุณภาพดี อีกทั้งยังมีผู้ช่วยที่อำนวยความสะดวกเรื่องการสั่งซื้อสินค้า ทำให้แม้ว่าคุณจะไม่รู้ภาษาจีน แต่ก็สามารถทำการซื้อสินค้าได้ไม่ยากนัก อาทิ Protaobao ผู้ให้บริการสั่งซื้อและชิปปิ้งสินค้าจากจีนที่มีประสบการณ์มายาวนาน พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 7 วัน